มีคนเป็นจำนวนมากที่มีความเชื่อว่า การกินอาหารมื้อเช้าจะทำให้คุณกระปรี้กระเปร่า และมีกำลังวังชาในการทำงาน ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดผลาดอย่างมโหฬาร และยังเป็นการใช้พลังงานที่ไม่ถูกต้อง ข้อเท็จจริงต่อไปนี้ จะทำให้คุณต้องลบล้างความเชื่อเดิมๆ กันเลยทีเดียว
คงไม่มีใครปฏิเสธว่า พลังงานเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต เมื่อคุณตื่นขึ้นมาในตอนเช้า หลังจากการพักผ่อนนอนหลับมาตลอดคืน พลังงานต่างๆจะสะสมอยู่ในร่างกาย และเตรียมไว้เพื่อนำไปใช้ในระบบต่างๆ เชื่อหรือไม่ว่า อาหารมื้อเช้าที่คุณกินนั้น ไม่สามารถให้พลังงานกับคุณได้ในทันที ในทางตรงกันข้าม มันกลับใช้พลังงานที่คุณสะสมไว้ตลอดคืน เพื่อการย่อยสลายและดูดซึม อย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงที่อาหารกำลังย่อยสลายในกระเพาะอาหาร สารอาหารต่างๆจะไม่ถูกดูดซึมในทันที จนกว่าอาหารที่ผ่านการย่อยมาระดับหนึ่งแล้วผ่านเข้าสู่สำไส้ ดังนั้นการกินอาหารหนักในตอนเช้าจึงไม่ใช่เรื่องดีเป็นแน่ เพราะแทนที่ร่างกายจะใช้พลังงานที่สะสมมาจากอาหารที่คุณกินในวันก่อนเพื่อการทำงาน กลับต้องหมดพลังงานไปเป็นจำนวนมาก เพื่อการย่อยสลายอาหารมื้อเช้า และอาจทำให้คุณง่วงนอนในตอนบ่ายได้อีก
สิ่งที่ค้นพบก็คือ "การกินผลไม้เป็นอาหารมื้อเช้า" เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งคุณสามารถทดลองได้โดยไม่มีผลเสียใดๆ เพราะจากประสบการณ์แล้วยังไม่เคยได้รับอันตรายจากการกินผลไม้เป็นอาหารเช้า หากคุณเข้าใจหลักในการกินอย่างถูกต้อง
การกินผลไม้หรือน้ำผลไม้แทนอาหารมื้อเช้า มีข้อดีคือ ร่างกายสามารถดูดซึมได้เร็วภายใน 1 ชั่วโมง เพราะผลไม้จะใช้เวลาอยู่ในกระเพาะอาหารเพียง 20-30 นาที ก่อนจะผ่านเข้าสู่ลำไส้เพื่อการดูดซึม ซึ่งทำให้คุุณมีพลังงานสะสม สำหรับมื้อต่อไปในช่วงบ่ายและเย็นของแต่ละวัน นั่นหมายความว่า ถ้าคุณกินอาหารหนักในมื้อเช้า ร่างกายก็จะทำงานหนักขึ้นด้วย แต่ถ้าคุณกินอาหารที่มีคุณประโยชน์และไม่ใช้พลังงานมากอย่างผลไม้ ร่างกายของคุณก็จะเบาสบาย สดชื่นไปตลอดทั้งวัน
วิธีกินผลไม้เป็นอาหารในตอนเช้า
คุณสามารถกินผลไม้และน้ำผลไม้ได้ตั้งแต่เช้าถึงเที่ยง และกินเพิ่มได้เรื่อยๆ ถ้าคุณยังรู้สึกหิว โดยเว้นระยะก่อนอาหารมื้อต่อไปประมาณ 20-30 นาที เพื่อไม่ให้มีอาหารคั่งค้างในขณะที่คุณรับประทานอาหารในมื้อต่อไป และถ้าคุณรับประทานอาหารมื้อกลางวันแล้ว และอยากรับประทานผลไม้ ก็ควรเว้นระยะสักประมาณ 3-4 ชั่วโมง ถ้าเป็นอาหารที่ย่อยสลายยากเช่น เนื้อสัตว์ต่างๆ ก็ควรเว้นระยะสัก 6-8 ชั่วโมง หลักง่ายๆ ก็คือ คุณสามารถกินผลไม้ได้ทันทีที่ท้องคุณว่างจากอาหารอื่นๆ
บ่อยครั้งที่มีคนอยากทดลองกินผลไม้เป็นอาหารเช้า แต่เขามักกังวลเรื่องแคลอรี่ ซึ่งถ้าพิจารณาหลักการที่กล่าวมาข้างต้น การสนใจเรื่องแคลอรี่ไม่ได้เป็นคำตอบเสมอไปและไม่เป็นจริงในทางปฏิบัติ
หัวใจสำคัญของเรื่องนี้อยู่ที่ การรู้จักอาหารที่เรากิน และรู้ว่าร่างกายของเรานั้นมีปฏิกิริยา หรือมีกระบวนการจัดการอย่างไรต่ออาหารที่เรากินเข้าไปในแต่ละวัน ความเข้าใจตรงนี้จะเป็นพื้นฐานที่ช่วยให้ คุณมีพฤติกรรมการกินได้อย่างถูกต้อง และเป็นผลดีแก่สุขภาพ
ถอดความจากบางตอนของหนังสือเรื่อง Fit for Life ( Worner Books, New York, 1987)
ผู้แต่ง Harvey และ Marilyn Diamond
เรียบเรียงโดย วรรณา จารุสมบูรณ์